เยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าว จากการแบ่งย่อยๆ ออกได้หลายสายพันธุ์นั้น ข้อสังเกตหนึ่งดูที่เยิ้อหุ้มเมล็ดเพราะ บ้างมีมาก(หนา)บ้างมีน้อย(เยื่อบาง) ต่างๆกันไป เช่น บางพันธุ์มี เยิ้อหุ้มเมล็ดมากถึง 144.62 กรัม/ผล , ในขณะที่บางพันธุ์มีเยิ้อหุ้มเมล็ดแค่ 41 กรัม/ผล.
- สายพันธุ์ฟักข้าวไทย หลักๆ แบ่งเป็น 2 สายพันธุ์ คือพันธุ์ผลรี กับพันธุ์ผลกลม(พบมากในภาคใต้)
พันธุ์ผลรี ก็ยังมีแตกต่างปลีกย่อยหลากหลายไปอีกมาก
อาจจะไม่เห็นความต่างเด่นชัดนัก ( มข.นำมาวิจัย เกือบ 20 สายพันธุ์
)ส่วนขนาดของผล,ผลรียาวประมาณ 6-20 ซม. ,ผลกลมยาวประมาณ 4-10 ซม.
เยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าว จากการแบ่งย่อยๆ ออกได้หลายสายพันธุ์นั้น ข้อสังเกตหนึ่งดูที่เยิ้อหุ้มเมล็ดเพราะ บ้างมีมาก(หนา)บ้างมีน้อย(เยื่อบาง) ต่างๆกันไป เช่น บางพันธุ์มี เยิ้อหุ้มเมล็ดมากถึง 144.62 กรัม/ผล , ในขณะที่บางพันธุ์มีเยิ้อหุ้มเมล็ดแค่ 41 กรัม/ผล
สายพันธุ์ฟักข้าวไทย หลักๆ แบ่งเป็น 2 สายพันธุ์ คือพันธุ์ผลรี กับพันธุ์ผลกลม(พบมากในภาคใต้)
พันธุ์ผลรี ก็ยังมีแตกต่างปลีกย่อยหลากหลายไปอีกมาก
อาจจะไม่เห็นความต่างเด่นชัดนัก ( มข.นำมาวิจัย เกือบ 20 สายพันธุ์
)ส่วนขนาดของผล,ผลรียาวประมาณ 6-20 ซม. ,ผลกลมยาวประมาณ 4-10 ซม.
เยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าว จากการแบ่งย่อยๆ ออกได้หลายสายพันธุ์นั้น ข้อสังเกตหนึ่งดูที่เยิ้อหุ้มเมล็ดเพราะ บ้างมีมาก(หนา)บ้างมีน้อย(เยื่อบาง) ต่างๆกันไป เช่น บางพันธุ์มี เยิ้อหุ้มเมล็ดมากถึง 144.62 กรัม/ผล , ในขณะที่บางพันธุ์มีเยิ้อหุ้มเมล็ดแค่ 41 กรัม/ผล..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/583194
เยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าว จากการแบ่งย่อยๆ ออกได้หลายสายพันธุ์นั้น ข้อสังเกตหนึ่งดูที่เยิ้อหุ้มเมล็ดเพราะ บ้างมีมาก(หนา)บ้างมีน้อย(เยื่อบาง) ต่างๆกันไป เช่น บางพันธุ์มี เยิ้อหุ้มเมล็ดมากถึง 144.62 กรัม/ผล , ในขณะที่บางพันธุ์มีเยิ้อหุ้มเมล็ดแค่ 41 กรัม/ผล..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/583194
สายพันธุ์ฟักข้าวไทย หลักๆ แบ่งเป็น 2 สายพันธุ์ คือพันธุ์ผลรี กับพันธุ์ผลกลม(พบมากในภาคใต้)
พันธุ์ผลรี ก็ยังมีแตกต่างปลีกย่อยหลากหลายไปอีกมาก
อาจจะไม่เห็นความต่างเด่นชัดนัก ( มข.นำมาวิจัย เกือบ 20 สายพันธุ์
)ส่วนขนาดของผล,ผลรียาวประมาณ 6-20 ซม. ,ผลกลมยาวประมาณ 4-10 ซม.
เยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าว จากการแบ่งย่อยๆ ออกได้หลายสายพันธุ์นั้น ข้อสังเกตหนึ่งดูที่เยิ้อหุ้มเมล็ดเพราะ บ้างมีมาก(หนา)บ้างมีน้อย(เยื่อบาง) ต่างๆกันไป เช่น บางพันธุ์มี เยิ้อหุ้มเมล็ดมากถึง 144.62 กรัม/ผล , ในขณะที่บางพันธุ์มีเยิ้อหุ้มเมล็ดแค่ 41 กรัม/ผล..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/583194
เยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าว จากการแบ่งย่อยๆ ออกได้หลายสายพันธุ์นั้น ข้อสังเกตหนึ่งดูที่เยิ้อหุ้มเมล็ดเพราะ บ้างมีมาก(หนา)บ้างมีน้อย(เยื่อบาง) ต่างๆกันไป เช่น บางพันธุ์มี เยิ้อหุ้มเมล็ดมากถึง 144.62 กรัม/ผล , ในขณะที่บางพันธุ์มีเยิ้อหุ้มเมล็ดแค่ 41 กรัม/ผล..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/583194
- สายพันธุ์ฟักข้าวไทย หลักๆ แบ่งเป็น 2 สายพันธุ์ คือพันธุ์ผลรี กับพันธุ์ผลกลม(พบมากในภาคใต้)
พันธุ์ผลรี ก็ยังมีแตกต่างปลีกย่อยหลากหลายไปอีกมาก
อาจจะไม่เห็นความต่างเด่นชัดนัก ( มข.นำมาวิจัย เกือบ 20 สายพันธุ์
)ส่วนขนาดของผล,ผลรียาวประมาณ 6-20 ซม. ,ผลกลมยาวประมาณ 4-10 ซม.
เยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าว จากการแบ่งย่อยๆ ออกได้หลายสายพันธุ์นั้น ข้อสังเกตหนึ่งดูที่เยิ้อหุ้มเมล็ดเพราะ บ้างมีมาก(หนา)บ้างมีน้อย(เยื่อบาง) ต่างๆกันไป เช่น บางพันธุ์มี เยิ้อหุ้มเมล็ดมากถึง 144.62 กรัม/ผล , ในขณะที่บางพันธุ์มีเยิ้อหุ้มเมล็ดแค่ 41 กรัม/ผล
ถ้ากล้วลืมหรือไม่มีเวลาลดน้ำบ่อยๆก็ให้
- กระเทาะเปลือกเมล็ดพอเปือกนอกแตกจะงอกเร็ว (ถ้าไม่กระเทาะเปลือกก็ได้ แต่จะงอกช้าลงหน่อย)
- นำเมล็ดฟักข้าว ลงปลูกดินร่วน ฝังเมล็ดพอมิด
- นำผ้าขึ้ริ้วหนาๆหรือใช้ใบไม้(เก่าๆ)คลุม เพื่อให้มีความชื้นนานและสม่ําเสมอ รดน้ำ 1-2 วันครั้ง(ถ้าเป็นหน้าแล้ง)
- เมื่อเริ่มแทงหน่ออ่อนๆ ก็แยกออก นำลงเพาะในถุงชำหรือลงกระถางปลูก
- ส่วนถ้าต้องต้นแบบรู้เพศเลย ก็ใช้วิธีปักชำเถาว์ , ทับเถาว์, แยกราก ฯลฯ
- ขายเมล็ดฟักข้าว 200 เมล็ด/200 บาท {แถมเพื่ม จำนวนหนึ่ง ตามภาวะ}
-ขายต้นกล้าฟักข้าวราคา 30.-/ต้น
- ขายต้นกล้าฟักข้าวผลใหญ่,เยื่อหุ้มเมล็ดหนา 50.-/ต้น
- ส่งธรรมดาฟรี - (ส่ง EMS 100.- บวกเมล็ดเพิ่ม 50 เมล็ด)
- ต้นกล้า ค่าส่ง EMS 140.-
ฟักข้าวสุดยอดสมุนไพร
ฟักข้าวเป็นผัก อุดมไปด้วยไลโคปีน สารต้านมะเร็งที่ทุกคนใฝ่ฝันหา เป็นพืชท้องถิ่นในแถบบ้านเรา กระจายพันธุ์อยู่ในประเทศจีน เวียดนาม ลาว พม่า คนไทยไม่ได้นำฟักข้าวมาบริโภคอย่างแพร่หลาย อาจเพราะต้องระวังการบริโภคเพราะในเมล็ดของฟักข้าวจะมีสารพิษชนิดเมาเบื่อ แต่จะอยู่ในลูกแก่จัดที่มีสีเหลืองแดงแล้วเท่านั้น มีนักวิจัยเริ่มศึกษาสรรพคุณกันอย่างจริงจัง จนพบว่า ไลโคปีน จากฟักข้าว ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมากในคุณผู้ชายได้ดี
ไลโคปีน เป็นสารอาหารมหัศจรรย์ตัวหนึ่งที่มีอานุภาพในการต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ วงการแพทย์ได้นำสารไลโคปีนใช้ในการรักษาโรค พบว่าลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร รายงานการวิจัย ในประเทศจีน พบว่า โปรตีนจากเมล็ดฟักข้าวสามารถต้านอนุมูลอิสระและเพิ่มประสิทธิภาพ การทำงานของเซลล์ตับในหลอดทดลอง
ในประเทศเวียดนาม พบว่า น้ำมันจากเยื่อเมล็ดฟักข้าวมีประสิทธิภาพในการรักษามะเร็งตับ ประเทศไทย พบโปรตีนในเมล็ดฟักข้าวมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อเอชไอวี หรือเอดส์ และยับยั้งเซลล์มะเร็ง และได้มีการโดยจดสิทธิบัตรในประเทศไทยเป็นที่เรียบแล้ว ประเทศญี่ปุ่น มีการวิจัยพบว่า โปรตีนจากสารสกัดน้ำของผลฟักข้าวช่วยยับยั้งการเจริญของก้อนมะเร็งลำไส้ใหญ่ ในหนูทดลอง
ส่วนที่สำคัญของฟักข้าวที่ให้คุณค่าทางยาสูงอยู่ที่เยื่อหุ้มเมล็ด งานวิจัยของ วว. พบว่า เยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวมีกรดไขมันสายยาว ที่ช่วยในการดูดซึมเบต้าแคโรทีนไปใช้ประโยชน์ในร่างกายได้
เยื่อที่หุ้มเมล็ดฟักข้าวมีสารเบต้าแคโรทีน (Beta Carotene) และไลโคปีน (Licopine) สูงกว่าแครอต 20 เท่า และสูงกว่ามะเขือเทศถึง 70 เท่า นอกจากต้านมะเร็งแล้ว ยังช่วยให้ฮีโมโกบินในเลือดเข้มข้นขึ้น ช่วยแก้โรคโลหิตจาง
ชาวเวียดนามเป็นชาติที่บริโภคลูกฟักข้าวสุกหรือแก๊ก (GAC) ในชีวิตประจำวันมากที่สุด รู้จักนำเยื่อหุ้มเมล็ดแก๊กมาหุงย้อมสีข้าวให้เป็นสีแดงเพื่อใช้รับประทาน ฉลองเทศกาลปีใหม่ งานมงคลสมรส และงานมงคลต่างๆ นอกจากมีวัตถุประสงค์เพื่อความเป็นสิริมงคลแห่งสีแดงแล้ว ยังเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ช่วยลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้สูงอายุ ช่วยแก้โรคโลหิตจางและโรคเลือดธาลัสซีเมียในเด็ก รวมทั้งช่วยต้านโรคมะเร็งได้หลายชนิด
ในตำรับยาไทย ได้กล่าวถึงสรรพคุณส่วนต่างๆ ของฟักข้าวไว้ คือ ใบ ปรุงเป็นยาเขียว ใช้ถอนพิษ ดับพิษทุกชนิด ตำพอกแก้ปวดหลัง ยอด มีเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในปริมาณที่สูง จึงสามารถใช้รักษา มะเร็ง เมล็ด ใช้บำรุงปอด แก้ท่อน้ำดีอุดตัน และแก้วัณโรค ราก ใช้ต้มดื่ม หรือตากแห้ง บดเป็นผงแล้วปั้นขนาด 0.5 กรัม กินครั้งละ 3-5 เมล็ด ก่อนอาหารเช้า-เย็น ขับเสมหะ ดับพิษไข้ แก้เข้าข้อ ปวดตามข้อ ถอนพิษไข้ นอกจากนี้ หากนำส่วนของรากแช่น้ำ แล้วใช้น้ำสระผม จะช่วยแก้ผมร่วง และฆ่าเหาได้
ประเพณีชาวล้านนานำรากฟักข้าวผสมกับฝักส้มป่อยใช้ทำน้ำสำหรับรดน้ำดำหัว ผู้ใหญ่ และนำไปใช้เป็นยาสระผม เช่นเดียวกับภูมิปัญญาของประเทศฟิลิปปินส์ ก็ได้มีการนำรากฟักข้าวมาบดแล้วนำไปหมักผม เพื่อช่วยให้ผมดกและยังสามารถกำจัดเหาได้ด้วย
ด้วยคุณสมบัติอันเลิศด้วยสารไลโคปีนนี้ มีการนำไปผสมกับสมุนไพรและผลไม้อื่นๆ ทำเป็นเครื่องดื่มบำรุงสายตา บำรุงสุขภาพ และยังมีการพัฒนาไปทำเครื่องสำอางเพื่อลดริ้วรอย
ในวงการเครื่องสำอางนั้น สารสกัดจากฟักข้าวนับว่ามาแรงติดอันดับหนึ่งในด้านประสิทธิภาพ ในการทำให้ผิวขาวอย่างเป็นธรรมชาติและไร้อันตราย งานวิจัยจากประเทศเยอรมนีแสดงให้เห็นว่าสารสกัดไลโคปีนสามารถป้องกันการเกิด ผิวหนังร้อนแดงได้ ช่วยยับยั้งการดูดซึมยูวี ช่วยปกป้องผิวไม่ให้เกิดความเสียหายจากแสงยูวี
ส่วนเนื้อของฟักข้าวก็มีสารต่างๆ โดดเด่นไม่น้อย เมื่อเทียบกับเยื้อหุ้นเมล็ด
เพราะฉะนั้นสามารถนำมาใช้ได้แทบทุกส่วนเลย
ข้อมูลจากงานวืจัยของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยหรือ (วว.) ดูเพิ่มเติมจาก link ของ วว. ด้านล่าง (คลิกที่รูปเพื่อขยายใหญ่)
( เผยแพร่เมื่อ 30 ม.ค. 2014)
http://www.youtube.com/watch?v=O4kmZgttSb0
http://www.youtube.com/watch?v=UkOKFx5Ovr4
Linkการเพาะ,การแปลงเพศ,ปรับปรุงพันธุ์ด้วยการเสียบยอด ของฟักข้าว | ||
http://www.bansuanporpeang.com/blog/9189 |
LINK ทดลองผสมฟักข้าว
http://www.bansuanporpeang.com/node/23960
Link แจกเมล็ดฟรี
http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=87027.0
Link ชมสวนฟักข้าวคุณพรชัย
http://www.youtube.com/watch?v=ofTaGyF0Dco
วืธีขุดหลุมปลูกให้ต้นไม้เจริญงอกงามและจะมีผลผลิตดี โดยคุณวโรชา
http://www.youtube.com/watch?v=ARGwuwLOuJU
Link ข้อมูลฟักข้าวเวียดนาม (บางส่วน)
https://www.youtube.com/watch?v=qWqgg-wXLds
http://www.youtube.com/watch?v=6JAc6sKTrLU
มหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) ได้ทดลองปลูกฟักข้าวทั้งหมด 19 พันธุ์ ในระหว่างฤดูฝน เดือนกรกฎาคม 2554 เริ่มเก็บข้อมูลหลังจากอายุต้นโดยเฉลี่ย 1 ปี ในช่วงระหว่างเดือนเมษายน 2555 ถึงเดือนพฤษภาคม 2556 ได้ทดสอบพันธุ์,คัดเลือกพันธุ์,เพื่อนำไปพัฒนาปรับปรุงพันธุ์หาลูกผสม ที่มีปริมาณสานไลโคพีนและเบต้าแคโรทีน รวมทั้งมีผลผลิตเพิ่มขึ้น ฯลฯ
จากการเปรียบเทียบ พบว่าน้ำหนักเยื่อหุ้มเมล็ดต่อผล เปอร์เซ็นต์เยื่อหุ้มเมล็ด จำนวนผลต่อต้นต่อปี และน้ำหนักผลต่อต้นต่อปี มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติ ส่วนน้ำหนักผลสดต่อผล และน้ำหนักเยื่อหุ้มเมล็ดต่อปี มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยพบว่า
ฟักข้าวพันธุ์ KKU ac.10-098-4 (จากประเทศเวียดนาม), KKU ac.09-033(จาก จ.กาญจนบุรี) และ KKU ac.11-158 (จาก จ.นครปฐม) ทั้ง 3 สายพันธุ์นี้มีน้ำหนักผลสดต่อผล น้ำหนักเยื่อหุ้มเมล็ดต่อผล และเปอร์เซ็นต์เยื่อหุ้มเมล็ดสูง
ฟักข้าวพันธุ์ KKU ac.10-098-8 เป็นพันธุ์จากประเทศเวียดนาม มีจำนวนผลต่อต้นต่อปี น้ำหนักผลสดต่อต้นต่อปี และน้ำหนักเยื่อหุ้มเมล็ดต่อปีสูง (69.00 ผล/ต้น/ปี, 44,660 กรัม/ต้น/ปี และ 7,522.60 กรัม/ต้น/ปี ตามลำดับ)
สายพันธุ์ฟักข้าวของไทยมีหลายสายพันธุ์ มีความแตกต่าง เช่นน้ำหนักของผลสดต่อผล, น้ำหนักเยื่อหุ้มเมล็ดต่อผล,ลักษณะของผล ฯลฯ การจะปลูกฟักข้าว ควรคัดเลือกสายพันธุ์ เพื่อจะได้ผลผลิดสูง ,ได้หาพันธุ์เยื่อหุ้มเมล็ดหนา,ผลใหญ่ พอสมควร มา 2 สายพันธุ์ {รูปที่ 1(รูปซ้าย) -4 },ส่วนพันธุ์เวียดนามหามาได้ 4 สายพันธุ์ (รูป ที่ 5-7) จะทดลองหาลูกผสมบ้าง
รูปที่ 1
รูปที่ 2
รูปที่ 3
รูปที่ 4
รูปที่ 5 (พันธุ์เวียดนามรูปที่ 5-7)
รูปที่ 6
รูปที่ 7
รูปที่ 8
รูปที่ 9
รูปที่ 9 | | ||||||
การปรับปรุงพันธุ์หรือแปลงเพศฟักข้าว ถ้าต้นมีผลเล็กก็ปรับปรุงพันธุ์, ถ้าเป็นต้นตัวผู้ก็แปลงเพศ (เก็บมาฝากมี 2 link (2 แบบ) | |||||||
UPDATE 24/01./15 | |||||||